[Fic NCT] ฝากไว้ #Intro (JaeYong)

[Fic NCT] ฝากไว้ #Intro (JaeYong)

Title : ฝากไว้

Author : GLassSEcret

Fandom : NCT

Pairing : Jaehyun x Teayong (Jung Jaehyun x Lee Teayong)

Genre : Omegavers Romantic Drama Erotic

Rate : R-18

Note : ครั้งแรกที่แต่งโอเมก้าเวิร์สเลยนะฮะ… For my best friend

.

.

.

.

– Intro –

.

.

.

วันนี้เขาพร้อมแล้ว…

พร้อมที่จะเอ่ยประโยคนั้นออกไป

ประโยคที่เขาเก็บงำมาตลอด 7 ปี

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเจอกัน

อยากจะประโยคนั้น

ความรู้สึกทั้งหมด…

ที่มีต่อ…

‘เพื่อนรัก’ ของเขา

.

.

.

ณ ลานหน้าตึกบริหาร

วันนี้เป็นวันจบการศึกษาของทุกคนในระดับชั้นป.ตรีรุ่นที่ 61 ‘อี แทยง’ ยืนรออยู่ที่หน้าตึกเพื่อรอใครบางคนที่นัดเขามา ร่างโปร่งยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู นี่ก็เลยเวลามานานพอสมควรแล้ว หรือคนที่นัดเขามาจะลืมนัดเสียงเอง? ยิ่งเวลาป่านนี้ทุกคนในห้องคงไปเตรียมตัวฉลองจบการศึกษากันที่ผับแล้ว…

ตึกๆๆๆๆๆ!!!

เสียงฝีเท้ากดหนักๆวิ่งเข้ามาใกล้ร่างโปร่ง แทยงหันไปก็พบกับ ‘จอง แจฮยอน’ เพื่อนสนิทของเขา

“โทษที รอนานมั้ย?”

“เกือบหนีกลับแล้ว”

แทยงส่งยิ้มให้อีกฝ่ายที่กำลังเหนื่อยหอบ

“แล้วนายนัดมามีอะไรรึเปล่า?”

“อืม มี”

สายลมค่อยๆพัดเข้ามาอย่างเบาๆ ตอนนี้แทยงและแจฮยอนอยู่ตรงลานเพียงกันแค่สองคนท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น สายตาของแจฮยอนจ้องแทยงอย่างจริงจังจนแทยงยังแปลกใจ…

“เฮ้ แจฮยอน อย่าจ้องแบบนั้นสิ”

“ฉัน…อยากบอกเรื่องนี้มานานแล้ว”

แจฮยอนยื่นมือเข้ามาเพื่อจับข้อมืออีกฝ่ายเบาๆ

เขาอยากสัมผัสมันมานานแล้ว ข้อมือบางของอีกฝ่ายที่นานๆจะมีโอกาสได้สัมผัสซักครั้ง

“ฉัน…”

กล้าหน่อยสิวะ จอง แจฮยอน

แจฮยอนสูดลมหายใจเข้าออกพักหนึ่งก่อนที่จะพูดออกไป

“ฉัน…รักนายนะ แทยง รักมานานมากแล้ว”

“…”

“จะว่าไงดี ตั้งแต่ตอนนั้นเลยมั้ง ตอนม.ปลาย”

แทยงไม่ได้พูดอะไร แต่แสดงสีหน้าที่ดูเจื่อนลงอย่างเห็นได้ชัดแต่ก็กลับมาปั้นหน้าปกติได้อย่างรวดเร็ว ริมฝีปากอิ่มค่อยๆเอื้อนเอ่ยประโยคที่จะทำให้อีกฝ่ายจดจำไปอีกนาน…

“ฉันขอโทษ แจฮยอน…”

แจฮยอนทำอะไรไม่ถูก…แทยงค่อยๆแกะมือออกเบาๆก่อนที่จะเดินจากไป ปล่อยให้อีกคนนิ่งค้างอยู่แบบนั้น

ก่อนที่ร่างโปร่งของแทยงจะจากไป แจฮยอนที่พึ่งได้สติจากคำปฏิเสธเมื่อครู่ก็ได้ตะโกนถามก่อนที่ร่างโปร่งจะหายไปจากตรงนั้น

ได้โปรด อย่าเพิ่งทิ้งเขา…

“ทำไม…ทำไมเราถึงรักกันไม่ได้ล่ะแทยง ทำไม!!?”

“…”

แทยงค่อยๆหันมาสบตากับแจฮยอน ใบหน้าของแจฮยอนนั้นแสดงสีหน้าสับสนและผิดหวังกับคำตอบอย่างเห็นได้ชัด

“…ฉันเป็นโอเมก้าธรรมดาๆ ส่วนนายคืออัลฟ่าที่มาจากตระกูลที่มีฐานะดี…”

“…”

“นี่แหละเหตุผล ที่ฉันไม่สามารถรับความรู้สึกนั่นได้…”

“…”

“ฉัน…ฉันขอโทษ…”

แทยงเดินจากไปลับตา ทิ้งให้อีกคนยืนค้างอยู่แบบนั้น…โดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังยืนร้องไห้มองร่างโปร่งเดินจากไปจนลับตา

.

.

.

3 วันต่อมา ณ หาดแฮอึนแด ปูซาน

“แทยง ทางนี้!”

“อ…อื้ม!”

ตอนนี้เพื่อนสมัยม.ปลายมารวมตัวกันที่หาดแฮอึนแดเพื่อถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ทุกคนที่เคยเรียนม.ปลายห้องเดียวกันตกลงกันไว้ว่า ถ้าพวกเขาทั้งหมดประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะอะไรก็ตามแต่ จะจบการศึกษาหรือทำธุรกิจส่วนตัวก็จะมารวมตัวกันถ่ายรูปเพื่อระลึกถึงวันวาน

แทยงเดินเข้าไปตามเสียงเรียกของ ‘โอ เซฮุน’ เพื่อนสมัยเรียนของเขา ทั้งคู่ทักทายกันตามภาษาของคนที่ไม่ค่อยได้เจอกันมานาน เพราะแต่ละคนต่างก็เรียนหนักจนไม่มีเวลาได้เจอกัน หลังจากที่คุยกันเสร็จ ‘ลิซ่า’ เพื่อนผู้หญิงที่เคยเรียนด้วยกันก็ตะโกนเรียกให้มาถ่ายรูปรวม

“มาเร็วมารวมตัว จะได้ไปหาอะไรกินกัน!”

“เออ” เซฮุนตะโกนกลับ

เมื่อลิซ่ามองสมาชิกในชั้นม.ปลายกลับพบว่ามีคนหนึ่งที่ไม่มา ลิซ่าจึงหันไปหาแทยงเพื่อถาม

“แล้วแจฮยอนละแทยง?” ลิซ่าถามด้วยความสงสัย

“ฉัน…ไม่รู้” แทยงตอบ

“เอ้า ก็นายสองคนสนิทกันนี่นา” ลิซ่าทำหน้ามุ่ย

“ยัยเบ๊อะ สองคนนี้สนิทกันก็ไม่ได้แปลว่าจะรู้ไปทุกเรื่องนี่นา”

‘จอน จองกุก’พูดด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ลิซ่ากำลังจะหันไปทุบจองกุกแต่จองกุกก็หลบทันแล้วพูดขึ้น

“ถ้าเป็นแจฮยอน หมอนั่นไปแคนาดาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“เฮ้ย จริงดิ?” ลิซ่ากับเซฮุนพูดพร้อมกัน

“อืม” จองกุกตอบ

“ได้ไงอ่ะ?” ลิซ่าถาม

“ก็งานที่บ้านหมอนั่นแหละมั้ง” จองกุกตอบสั้นๆ

เมื่อแทยงได้ฟังคำตอบจากจองกุก แทยงก็ทำหน้าเจื่อนลงทันที แต่ก็ต้องรับปรับสีหน้าให้ดูเป็นปกตอที่สุดเพื่อเตรียมตัวถ่ายรูป แต่ในใจนั้นกลับคิดถึงเรื่องเมื่อ 3 วันก่อน วันที่เขาปฏิเสธแจฮยอนไป…

ที่นายไม่มาวันนี้

เพราะฉันใช่มั้ย…? แจฮยอน…

.

.

.

3 ปีต่อมา

แทยงกำลังดีใจที่ได้รับงานใหม่… เขาใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะได้งานแผนกบัญชีใน ‘บริษัท J-Corporation’ บริษัทเวชภัณฑ์ยาและอุปกรณ์การแพทย์ที่ก้าวหน้าที่สุดในเกาหลีใต้ตอนนี้… ภายในเวลาเพียงแค่ปีเดียวบริษัทนี้เติมโตและมีอิทธิพลค่อนข้างมากในเกาหลีใต้ในด้านการแพทย์ จากการรีวิวของเพื่อนๆที่เข้าไปทำงานกันก็บอกมาว่าเวินเดือนของที่นี่ดีมากจนมีแต่คนแย่งชิงงานที่นี่มากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ด้านดีๆ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องหัวหน้าแผนกโหดและเคี่ยวมาก หากไม่มีความสามารถที่ดีเพียงพอก็ไม่อาจอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน

และนี่คือโอกาสของแทยงที่จะก้าวหน้าในหน้าที่การงานโดยการเข้าไปทำงานในบริษัทเจคอร์เปอเรชั่นในแผนกบัญชี ตอนแรกเขาก็ค่อนข้างหวั่นใจตอนไปสอบสัมภาษณ์ แต่สุดท้ายก็ผ่านมาด้วยดี

เอาหล่ะ แทยง ตอนนี้นายได้งานดีๆทำแล้ว

ชีวิตนายต้องดีขึ้น พ่อแม่จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง…

แทยงกระชับสูทให้เข้าที่เรียบร้อยก่อนที่จะเดินตรงเข้าไปในบริษัท แต่ทำไมวันนี้ทุกคนดูวุ่นวายกันจัง ทั้งๆที่ปกติบริษัทจะไม่วุ่นวายขนาดนี้นี่นา? แต่แทยงก็ไม่ได้อะไรมาก เขากดลิฟต์ไปชั้น 5 เพื่อที่จะไปแผนกของตน พอถึงชั้นแผนกแทยงก็ถูกเรียกทันที

“อี แทยง!”

แทยงหันไปตามเสียงเรียกของ ‘คิม มินซ็อก’ หัวหน้าแผนกบัญชีที่สัมภาษณ์เขาแล้วรับเข้าทำงาน หัวหน้ารีบเดินตรงมาที่เขาพร้อมกับรีบสวมสายบัตรพนักงานให้แทยงพร้อมกับรีบจัดทรงผมให้แทยงอย่างรวดเร็ว

“เอ่อ?”

“คุณอาจจะงงๆนะ แต่ที่วันนี้เขาวุ่นทั้งบริษัทเพราะว่าวันนี้ประธานบริษัทจะมาที่นี่”

“คุณ J น่ะเหรอครับ?”

“ใช่ ปกติเขาไม่ลงมาดูงานด้วยตัวเองหรอก หรือจะว่าไงดี…ไม่มีใครได้รู้ตัวจริงของคนๆนี้ด้วยซ้ำ พอทุกคนรู้ว่าคนๆนี้จะลงมาบริหารงานที่นี่ด้วยตัวเองก็เลยรีบวุ่นเตรียมงานกันใหญ่เลย”

“อ่า… ครับ”

“งานคุณอยู่บนโต๊ะ ผมเตรียมให้เรียบร้อยแล้ว พอหลังจากต้อนรับท่านประธานเสร็จเดี๋ยวผมจะให้โด คยองซู รุ่นพี่คุณสอนงานให้นะครับ ตอนนี้พวกเราต้องไปกันแล้ว”

“เอ่อ ครับ”

แทยงรีบวางกระเป๋าไว้ที่โต๊ะก่อนที่จะรีบเดินตามหัวหน้ามินซ็อกและเพื่อนๆในแผนกคนอื่นไปเพื่อเตรียมตัวรอต้อนรับท่านประธานบริษัทที่กำลังจะถึง

ทุกคนยืนเรียงแถวกันเป็นสองฝั่งอย่างระเบียบเรียบร้อย แหวกทางตรงกลางเพื่อให้ท่านประธานเดินอย่างสะดวก แทยงคิดในใจว่านี่ประธานคนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลขนาดนี้เชียวเหรอ?

เมื่อถึงเวลาอันสมควร ประตูกระจกบานใหญ่ถูกเปิดออก ปรากฏชายร่างสูงหน้าคมเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับบอดี้การ์ดฝีมือดีอีก 2 คนเดินประกบคู่ ทุกคนต่างก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี เว้นแต่เพียงแทยง…

เขารู้จักคนๆนี้เป็นอย่างดี

‘จอง แจฮยอน’

แจฮยอนเดินผ่านแทยงที่ยืนนิ่งค้าง แจฮยอนหันหลังมาหาแทยงก่อนที่จะส่งยิ้มเล็กๆให้ก่อนที่จะเดินหายไปจนลับสายตา

นับจากนี้…

นับจากวันนี้เป็นต้นไป

ชีวิตของอี แทยงจะเปลี่ยนไป

เขาจะจดจำกับสิ่งที่ ‘จอง แจฮยอน’ ทำกับเขา

จดจำทุกรายละเอียดไปทั้งชีวิต

จนกว่าแทยงจะหมดลมหายใจจากโลกนี้ไป

แจฮยอนเค่นยิ้ม…เขารอคอยมานานเหลือเกิน

ที่จะ ‘ฝาก’ ความเจ็บปวดไว้บนร่างกายและจิตใจของคนที่เขารัก…

หรือจะกลายเป็นคนที่เขาเกลียดไปแล้วนะ? 🙂

.

.

.

TBC.

++++++++++++++++++++++++++++

คำเตือน : นับจากตอนนี้เป็นต้นไป กรุณาอัพตับไตของท่านให้แข็งแกร่งพอที่จะอ่านมันได้

[Fic Exo x Nct] Until We Meet Again (KaiYong)

[Fic Exo x Nct] Until We Meet Again (KaiYong)

Title : One Night Stand

Author : GLassSEcret

Fandom : Exo and Nct

Pairing : Kai x Teayong (Kim Jongin x Lee Teayong)

Genre : Romantic Drama

Rate : PG-13

Note : หืม อ่านหัวกันไม่ผิดหรอกน่า อิไค exo กับนุ้งแทยง Nct ไง เพื่อนเป็นอีขี้ชิพ All แทยง เห็นโมเม้นคู่นี้แปะมือกันบนสเตจ KBS Song Festival 2018 SM Special ในเพลง Monster นางชิพค่ะ เราเลยจัดให้ค่ะ =w= ต่อจาก One Night Stand นะคะ #รักเพื่อนนะ

One Night Stand : https://glasssecret.wordpress.com/2019/01/20/fic-exo-x-nct-one-night-stand-kaiyong/

.

.

.

.

.

.

2 เดือนผ่านไป ณ หอพักที่ไคอาศัยอยู่

‘คิม จงอิน’ หรือ ‘ไค’ กำลังเหม่อมองท้องฟ้าอยู่บนดาดฟ้าของหอพัก ดวงอาทิตย์ทรงกลมส้มกำลังตกลับฟ้าไปจากเขา

เหมือนมีบางอย่างที่จากเขาไป เหมือนดวงอาทิตย์ที่กำลังลับฟ้า

แปะ…

กระป๋องน้ำอัดลมเย็นๆแปะแก้มของไคทำให้เขาสะดุ้งเฮือกเล็กน้อยแต่ไม่ถึงขั้นตกใจเว่อร์ขนาดนั้น ‘โด คยองซู’ ส่งยิ้มให้แล้วยังคงดันกระป๋องน้ำอัดลมที่แก้มไค ไคยิ้มให้กลับก่อนที่จะรับน้ำอัดลมมาเปิดแล้วดื่มมัน คยองซูเลื่อนตัวมานั่งข้างๆไคแล้วก็พูดขึ้น

“ช่วงนี้นายดูซึมๆนะจงอิน”

“ฉันสบายดี เห็นมั้ย”

ไคส่งยิ้มให้เพื่อนตัวเล็ก แต่คยองซูรู้ว่านั่นแค่ยิ้มเพื่อให้เขาสบายใจเท่านั้น

“เราเป็นเพื่อนกันมานานทำไมฉันจะไม่รู้ว่านายกำลังเป็นอะไร จงอิน”

“…”

“นายมีอะไร นายบอกฉันได้เสมอนะจงอิน”

“อืม”

ไคสั่งยิ้มให้คยองซูอีกครั้ง แล้วทั้งคู่ก็นั่งมองท้องฟ้าแบบนั้นจนกระทั่งเซฮุนมาตามให้ไปทานข้าวกัน

.

.

.

ในเวลาเดียวกัน ณ หอพักที่แทยงอาศัยอยู่

‘ลี แทยง’ กำลังหนังเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่าง กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย… ตอนนี้แทยงกลับมาอาศัยที่หอพักเหมือนเดิม เป็นรูมเมตคู่กับจอห์นนี่เหมือนเดิมเนื่องจากช่วงนี้ทั้งงาน การบ้านและกิจกรรมของมหาลัยเยอะมาก ส่วนคอนโดก็ปล่อยร้างไปงั้น ไว้เสร็จงานค่อยกลับไปพักให้สบายทีเดียว…

แต่ถึงกระนั้นในหัวของแทยงก็ยังคงคิดถึงคืนนั้น และ ‘คน’ ที่อยู่กับเขาในคืนนั้น

และหลังจากคืนนั้น…

.

.

หลังจากที่มีอะไรกับไคไปแล้ว… แทยงลุกขึ้นมาเกือบตอนตี 4 เขามองไคที่กำลังหลับสนิทซักพักก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเงียบๆ

แทยงเดินออกมาหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว เขาก็เลือกเสื้อที่คิดว่าไคน่าจะใส่ได้เตรียมไว้ให้ ก่อนที่จะเขียนโน๊ตสอดไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้วยลายมือบรรจงว่า ‘ลืมเรื่องเมื่อคืนไปเถอะนะครับ’

แทยงเดินไปที่เตียง สายตายังคงมองไคที่กำลังหลับสนิทจากกิจกรรมที่พวกเขาทำกัน… มือค่อยๆประคองใบหน้าคม ริมฝีปากค่อยๆแตะลงประกบคนที่กำลังหลับสนิทอย่างช้าๆก่อนที่จะผละออกมา

“ผมขอโทษ จงอิน…”

เป็นครั้งแรกที่แทยงเรียกชื่อจริงๆของไค…และมันคงจะเป็นครั้งสุดท้าย แทยงปาดน้ำตาก่อนที่จะค่อยๆเดินออกไปจากห้องไปในที่สุด…

.

.

เขารู้สึกว่าเขาหลอกใช้ไค…หลอกใช้ไคให้เป็นเครื่องมือสนองความใคร่ตัวเอง ยามที่เจอไคเขาไม่คิดที่จะทักทาย…แม้ใจจริงอยากจะทักทายหรือพูดคุยกันเหมือนปกติ แต่เขาทำได้เพียงกลืนคำพูดทุกคำลงไปแล้วเดินผ่านกันราวกับคนไม่รู้จัก…เพราะรู้สึกผิดต่อไค

อาทิตย์กำลังจะลับฟ้าแทยงก็ยังคงนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น ‘จอห์นนี่’ หรือ ‘ซอ ยองโฮ’เดินเข้ามาในห้อง เขาจำได้ว่ารุ่นน้องของเขานั่งแบบนี้มาได้ครึ่งค่อนวันแล้ว เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาคนที่กำลังนั่งเหม่ออยู่ ฝ่ามือเคลื่อนไปยังหัวทุยชมพูของอีกฝ่ายแล้วขยี้มันเบาๆ

“พี่ยองโฮ?”

“ไง”

“พี่มาตามเราไปกินข้าว ตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่ห้องกินข้าว”

“อื้อ”

แทยงเตรียมลุกออกไปจากห้องเพื่อไปทานข้าว จอห์นนี่คว้ามือของแทยงไว้

เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติบางอย่างของคนที่เขาคว้ามือเอาไว้…

“มีอะไรรึเปล่าฮะ?”

“…พักนี้นายแปลกไปนะ”

แทยงได้แค่ส่งยิ้มให้เพราะไม่อยากให้รุ่นพี่เป็นห่วงมากจนเกินไป

“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมแค่เหนื่อย งานที่มหาลัยมันเยอะน่ะครับ”

แทยงตอบ จอห์นนี่ถอนหายใจเบาๆก่อนที่จะยอมปล่อยมือ

“แต่ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็บอกได้นะ”

“ได้ครับ” แทยงส่งยิ้มให้

.

.

.

ไคนอนไม่หลับ…

ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เขาค่อยๆชันตัวลุกขึ้นหันไปมองอีกเตียงหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเขา ตอนนี้คยองซูกำลังหลับอยู่… ไคจึงค่อยๆลุกและเดินออกไปจากห้องให้เงียบที่สุด…เพื่อไปดาดฟ้าที่เดิม

ไคนั่งลองที่ขอบดาดฟ้าที่เดิม คืนนี้มีดาวเต็มท้องฟ้าเลยแฮะ… ไคยังคงนั่งจ้องมันอยู่แบบนั้น และนึกถึงเรื่องคืนนั้น…และโน้ตใบนั้น

ในคืนนั้นพวกเขาเหมือนจะทำไปโดยไม่มีสติทั้งคู่ ก็ไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายจะขอให้ลืมมันไป

ใช่… เขาทำตามที่แทยงต้องการ แต่ยิ่งทำเขายิ่งรู้สึกโหว่งใจแปลกๆ

“เฮ้อ…”

ไคถอนหายใจ เขาไม่สามารถจัดการความรู้สึกนี้ได้เลยในตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา

ทั้งโหว่งใจ และรู้สึกผิดต่อแทยง…ที่เผลอทำแบบนั้นลงไป

“ไม่หลับไม่นอนรึไง”

ไคหันไปหาต้นเสียง พบว่าเป็นคยองซูคนเดิม… นี่เขาว่าออกมาเงียบที่สุดแล้วนะ… คยองซูเดินเข้ามาแล้วมานั่งข้างๆไค คนตัวเล็กหันมาถาม

“นายมีเรื่องไม่สบายใจมากแน่ๆ ไม่งั้นนายไม่ลุกขึ้นมากลางดึกขนาดนี้หรอก”

“…ก็จริงของนาย”

ไคดูเหมือนจะยอมแพ้กับการเก็บเรื่องนี้ไว้แล้ว เขาจึงตัดสินใจเล่าให้คนตัวเล็กฟังทั้งหมด… ไคค่อยๆเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 เดือนก่อนด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย คยองซูเองก็ทำหน้าที่เป็นผู้ฟังอย่างตั้งใจ

เวลาผ่านไปเกือบ 10 นาที

“นั่นแหละ…”

“…”

“ฉันเลวมากมั้ย?”

คยองซูหันมาสบตากับไคช้าๆ
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าควรจะตอบยังไง…ก็ฉันดันเป็นตัวแปรในเรื่องของนายซะด้วยสิ” คยองซูตอบ

“…”

“แต่ถ้าจะให้พูดคือ นายก็ผิดทั้งคู่ ไม่มีใครเลวหรอก”

“…อืม”

“นายคงสับสนสินะว่าในตอนนี้นายคิดยังกับแทยง?”

“…?”

คยองซูยิ้มก่อนที่จะลุกขึ้น เขากางแขนเหมือนเป็นเชิงว่าให้ไคมากอดเขา

“ทำอะไรน่ะ?”

“มาเหอะน่า”

ไคยอมลุกขึ้นมาแล้วสวมกอดคยองซูแต่โดยดี

“รู้สึกยังไงล่ะตอนนี้…?” คยองซูถามพร้อมกับเงยหน้ามองไค

“ฉัน…ไม่แน่ใจ” ไคตอบ

คยองซูค่อยๆเลื่อนมือมาที่กลางอกของไค มือค่อยๆทาบเบาๆ

“นั่นแหละคือหน้าที่ของนาย… ตามหาความรู้สึกที่ขาดหายไปของนายสิ”

“…?”

คยองซูคลายกอดก่อนที่จะเดินไปที่ประตูของดาดฟ้าเพื่อกลับไปที่ห้อง แต่ก่อนจะไปเขาก็พูดทิ้งท้ายไว้

“ถ้านายได้เจอกับแทยงอีกครั้ง มันอาจจะเคลียร์ความรู้สึกส่วนนั้นก็ได้นะ”

“แล้วถ้าเกิดหมอนั่นไม่อยากเจอฉันล่ะ?”

“ก็แล้วแต่นายแล้วล่ะ”

“…”

“คืนนี้ฉันไปนอนกับเซฮุนนะ”

คยองซูส่งยิ้มก่อนที่จะเดินออกไปจากดาดฟ้าเพื่อไปห้องของเซฮุน ไคมองร่างเล็กจนลับตาหายไปก่อนที่จะเปลี่ยนมามองพระจันทร์แทน

“…นั่นสินะ”

.

.

.

วันต่อมา 10.05 น. ณ หอพักที่แทยงอาศัยอยู่

แทยงอยากออกไปข้างนอก… ถ้าเกิดเขาเอาแต่หมกตัวอยู่ในหอเขาคงไม่มีกะใจจะทำอะไรแน่ๆ แทยงหยิบเสื้อแขนยาวสีน้ำเงินมาสวมทับกับเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่เดิมแล้ว เขาคว้ากระเป๋าสะพาย โทรศัพท์ และหูฟังเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก

แทยงเดินลงบันไดลงไปชั้นล่าง มือก็กำลังเลื่อนหน้าจอเลือกเพลงที่กำลังจะฟัง ขณะที่สายตากำลังจดจ่อกับเพลง เท้าก้าวขั้นบันไดพลาด เขากำลังจะตกลงไปข้างล่าง แต่มีคนคว้าตัวเขาไว้ทัน

แทยงหันไปมองอย่างตกใจ คนที่คว้าเขาไว้คือ ‘แจฮยอน’

“เป็นอะไรรึเปล่า?” แจฮยอนถาม

“ม…ไม่เป็นไร”

แทยงรีบผละออกจากแจฮยอนแล้วรีบคว้ากระเป๋าที่ตกพื้นขึ้นมา

“กำลังจะไปไหนน่ะ” แจฮยอนถาม

“ออกไปเดินเล่นข้างนอกน่ะ อยู่แต่ในหอมันน่าเบื่อ”

“ไหวแน่นะ?”

“อื้อ ไหว”

แทยงส่งยิ้มอ่อนๆให้ก่อนที่จะเดินไปที่ส่วนหน้าของบ้าน เขาหยิบรองเท้ามาสวมก่อนที่จะค่อยๆเปิดประตูเดินออกไป

.

.

.

เวลาเดียวกัน ณ ย่านช็อปปิ้งมยองดง

วันนี้ไครู้สึกว่าอยากเดินออกไปเดินเล่นข้างนอกสลัดความคิดฟุ้งซ่าน ไม่คิดเลยว่าขึ้นรถบัสมั่วๆแล้วเดินเล่นเรื่อยมาจนมาถึงที่นี่… ย่านช็อปปิ้งมยองดง ผู้คนยังคงคับคั่งเหมือนเดิมแม้ว่านี่จะเป็นเวลาสายก็ตาม

ไหนๆก็มาแล้ว เดินดูของหน่อยก็ได้

เขากระชับเสื้อคลุมสีดำตัวใหญ่ เพิ่มระดับเสียงเพลงในหูฟังขึ้นมานิดนึงเพื่อกลบเสียงผู้คนที่ดังเจื้อยแจ้ว เขาเดินไปตามทางดูร้านค้าต่างๆเพื่อเดินดูของที่เขาคิดว่าน่าจะสนใจ มีสินค้ามากหน้าหลายตาตั้งเพื่อเชิญชวนให้ลูกค้ามาซื้อมัน กลิ่นขนมหวาน และอาหารต่างๆเองดูหน้าตาน่ากินไปหมด

ไคสะดุดตากับขนมเค้กอยู่ร้านหนึ่ง… มันเป็นเชอร์รี่ชีสพายชิ้นเล็กหน้าตาหน้าทาน เขาตัดสินใจซื้อมันเพราะชีสพายชิ้นนี้ทำให้เขานึกถึงใครบางคน

เขานึกถึงแทยง…

เขาจ่ายเงินให้พนักงานพร้อมกับขอบคุณ ระหว่างทางเดินดูของเขาทานมันไปด้วยระหว่างทาง รสหวานนุ่มลิ้นอร่อย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนที่เขานึกถึงๆได้ชอบมันนัก…

หลังจากที่ทานเสร็จเขาก็เดินเล่นต่อเพื่อหาของที่น่าสนใจต่อจนเกือบครึ่งค่อนวัน จนกระทั่งเดินดูเกือบหมดแล้วจึงตัดสินใจยืนพักที่ข้างร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งในย่านนั้น มือของเขาเลื่อนหาเพลงที่อยากจะฟัง แต่สายตาดันไปสะดุดกับบางอย่างเข้า…

ในหมู่ผู้คนที่กำลังเดินออกจากย่านมยองดง ชุดสีน้ำเงินเข้มตัวใหญ่ธรรมดา กระเป๋าสะพายสีขาวดำกับกลุ่มผมสีชมพูอ่อน… ไม่ว่าสีผมจะเปลี่ยนไปยังไงเขาก็ยังจำใบหน้านั้นได้ดี

ไครีบเดินไปหาคนๆนั้นทันที เขารีบวิ่งไปแล้วคว้ามือคนที่กำลังเดินจากไป

หมับ!

คนที่ถูกคว้ามือหันมาอย่างตกใจ แต่ก็นิ่งไปพร้อมกับจ้องมองคนตรงหน้า

“ค…ไค…?”

“ในที่สุดก็เจอตัวนายซักที…”

ไคจ้องหน้าแทยง คนตรงหน้าเขาทำสีหน้าเศร้าอย่างเห็นได้ชัด แทยงหลบตาไคเพราะไม่อยากจ้องนานจนเกินไป

“เราไม่ควรเจอกันอีก…”

“แต่ฉันไม่”

ไคบังคับลากกึ่งเดินจูงมือแทยงไปที่อื่น แทยงจำใจต้องเดินตามเพราะไม่อยากเป็นเป้าสายตาของคนอื่นมากนัก

ไคโบกมือเรียกแท็กซี่ เมื่อรถแท็กซี่จอดแล้วเปิดกระจกรถเขาก็สั่งคนขับรถว่าขับไปไหนก็ได้เรื่อยๆ และทั้งคู่ก้าวขึ้นรถด้วยความเงียบ

ไม่มีคำพูดใดเอ่ยออกมาจากทั้งคู่

ทั้งคู่ได้แต่นั่งเงียบไม่พูดอะไรกัน แทยงไม่คิดจะถามว่าทำไมถึงจูงมือกันออกมาทำไม จะพาไปไหน จะทำอะไร หรืออะไรก็แล้วแต่ทั้งนั้น แทยงเหลือบมองคนที่เอาแต่จ้องทางข้างหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนที่จะนั่งกอดกระเป๋ามองข้างทางโดยที่ไม่คิดจะพูดอะไร

ไม่ใช่ว่าไม่คิดจะพูดอะไร แต่คิดแล้วก็ได้แต่กลืนทุกคำพูดลงไปมากกว่า…

บรรยากาศภายในรถมันอึดอัดจนคนขับรถต้องหาเปิดวิทยุฟังเพื่อคลายบรรยากาศตึงเครียด…

เสียงเพลงค่อยๆทำให้บรรยากาศชวนอึดอัดคลายลงไม่มากก็น้อย ไคเหลือบไปมองอีกคนที่นั่งข้างๆเขาพักนึงก่อนที่จะกลับไปมองทางข้างหน้าเหมือนเดิม ส่วนแทยงเองก็มองไคผ่านกระจกก่อนที่จะสนใจข้างทางมากกว่า

나의 눈을 감으면
ฉันเห็นสายตาของเธอ

떠오르는 눈동자
แม้ในยามที่ฉันหลับตา

자꾸 가슴이 시려서
เพราะหัวใจฉันเจ็บปวด

잊혀지길 바랬어
ฉันจึงอยากลบเลือนมันไปซะ

แทยงค่อยๆขยับเปลือกตาให้ปิดลงช้าๆ จากที่เขาเดินมาทั้งวันพอเจอบรรยากาศในรถเขาก็เริ่มง่วง จนผล็อยหลับไปพิงคนข้างๆ… ไคลอบมองใบหน้ามนของอีกฝ่าย พร้อมกับเกลี่ยผมสีชมพูอ่อนที่ปรกหน้าอย่างช้าๆเพื่อให้เห็นใบหน้ายามหลับชัดๆ

인연의 끈이 넌지
เธอคือพรหมลิขิตของผมใช่ไหม?

기다린 네가 맞는지
ใช่คนที่ผมเฝ้าคอยมาตลอดหรือเปล่า?

가슴이 먼저 내려앉는지
ทำไมหัวใจของผมยิ่งดำดิ่งลงไปล่ะ?

 

“คิดออกรึยังครับว่าจะไปที่ไหน?” คนขับรถหันมาถามไค

“ครับ ผมคิดออกแล้ว”

.

.

.

อืม…

แทยงค่อยๆลืมตาขึ้นมา เพดานสีขาวนวลที่คุ้นตา… แทยงลุกพรวดขึ้นมา เขามองไปรอบๆเตียงที่เขานอน รอบๆห้องที่เขาอยู่ตอนนี้ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นนี่…

คอนโดของเขา?

“…”

แทยงค่อยๆก้าวลงจากเตียง เขาเปิดประตูไปยังห้องรับแขก เขามองไปที่ห้องครัว มีถุงอาหารวางไว้อยู่ที่โต๊ะ 2-3 ใบ แต่ที่เขากำลังมองหาไม่ใช่ของกิน…

เขาเหลือบมองไปยังโซฟารับแขก มีคนกำลังนอนอยู่บนโซฟารับแขกในคอนโดของเขา… ไคกำลังนอนหลับอยู่ตรงนั้น…ด้วยใบหน้าสงบนิ่งผิดจากตอนเจอกันที่ย่านช็อปปิ้ง

แทยงค่อยๆเดินไปหาร่างสูงที่กำลังนอนหลับอยู่บนโซฟา เขาค่อยๆนั่งลงข้างโซฟา ใบหน้าของทั้งคู่ห่างกันไม่มากเท่าไหร่ มือบางค่อยๆค่อยๆกลัดเกลี่ยผมหน้าม้าสีน้ำตาลเข้มเกือบดำของคนตรงหน้าออกเบาๆเพื่อไม่ให้รบกวนคนตรงหน้าให้ตื่น แม้ใบหน้าคมของอีกฝ่ายจะนิ่งสงัดขนาดไหน แต่คิ้วของเขายังคงขมวดเป็นปมเล็กๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่…

แทยงเลื่อนมือไปยังกลุ่มผมของคนที่กำลังหลับ ค่อยๆลูบกลุ่มเส้นผมนุ่มเบาๆ คิ้วของอีกฝ่ายค่อยๆคลายปมออกเหมือนเป็นเชิงบอกว่าเคลิ้มกับสิ่งที่เขาทำ แม้แทยงยกยิ้มขึ้นมาเบาๆแต่แววตานั้นยังคงรู้สึกผิดเหมือนเดิม…

“ผมขอโทษ…”

“…”

“ผมไม่ควรทำแบบนี้กับคุณเลย”

“…”

“ในคืนนั้น…ผมไม่น่าเอาตัวคุณมาแทนตัวแจฮยอนเลย”

“…”

“ผมมันเลวที่สุด…”

น้ำตาค่อยๆหยดลงจากดวงตาใส แทยงพยามกลั้นสะอื้นไม่ให้อีกคนตื่น เขากำลังจะลุกเพื่ออกไปจากที่นี่ …เพื่อหนีอีกครั้ง

…แต่อีกคนที่แกล้งหลับมาตั้งนานไม่คิดที่จะปล่อยให้อีกคนหนีจากเขาไปได้อีกครั้ง

หมับ!

ไคลุกขึ้นมาแล้วดึงแขนแทยงให้ตัวแทยงมาหาตัวเขา ร่างของแทยงเซไปตามแรง ด้วยความตกใจเลยเผลอผลักไคล้ม แต่จังหวะที่ไคกำลังจะล้มเขาคว้าเอวของแทยงไว้ด้วย ส่งผลให้ทั้งสองคนล้มลงนอนกับพื้นด้วยกันทั้งคู่

แทยงนอนทับอยู่บนตัวไค แทยงจะลุกอีกครั้งแต่ถูกไคล็อกตัวไว้ไม่ให้ลุกไปไหน ในที่สุดร่างบางก็ถอนหายใจแล้วพูดขึ้น

“ปล่อยผมเถอะไค…”

“ไม่ จนกว่าเราจะคุยกัน”

“ผม…”

ไคพลิกตัว กลายเป็นว่าตอนนี้เขาคร่อมร่างของแทยงแทน ตอนนี้ทั้งคู่สบตากัน แทยงที่อยากจะเบือนหน้าหนีก็ทำไม่ได้เพราะสายตาที่จ้องเขาตอนนี้เหมือนกำลังสั่งให้เขาจ้องมองอีกฝ่ายแบบตรงๆ เขาจึงจำใจมองอีกฝ่ายอย่างเลี่ยงไม่ได้

“…”

ไคค่อยๆเปลี่ยนสายตาจากแข็งกร้าวเป็นอ่อนลง สายตาของทั้งคู่ประสานกัน…

“ฉันเองก็ผิดเหมือนกัน…” ไคเริ่มพูด

“…”

“คืนนั้น ฉันไม่น่าหลอกใช้นาย…เอาตัวนายมาแทนคยองซูเลย”

“…”

“นายก็คือนาย…คือนายเสมอ”

“…”

“ฉันขอโทษ…”

“ฮึก…”

น้ำตาของอีกคนค่อยๆไหลรินออกมาจากดวงตาคู่สวย ไคค่อยๆให้มือปาดหยาดใสออกไปจากใบหน้ามนพร้อมกับส่งยิ้มให้ แทยงหยุดสะอื้นแล้วค่อยๆพูดขึ้น

“ผมเองก็ขอโทษที่เอาตัวคุณมาแทนแจฮยอน คืนนั้น…ฮึก…ผมขอโทษจริงๆไค…”

“…ถือว่าเราหายกันแล้วนะ ไม่หนีฉันแบบคราวนี้อีกแล้วนะ”

“ฮึก…” แทยงสะอื้นพร้อมกับผงกหัวเบาๆเป็นการตกลง

“ไม่ร้องสิ”

ไคปาดน้ำตาให้คนใต้ร่างอีกครั้ง เขายังคงปลอบคนที่เอาแต่สะอื้นไม่หยุด

คงจะโล่งใจมากๆเลยสินะ…

“แทยง…”

“ฮึก…ครับ…?”

“ฉัน…มาคิดดูแล้ว…”

“…?”

“ทำไม…เราไม่ลองมาคบกันจริงๆเลยล่ะ?”

แทยงรู้สึกอึ้งกับสิ่งที่ไคได้พูดออกมา แทยงเริ่มกลับมาสะอื้นอีกครั้ง

“แต่ผม…ฮึก…”

“ชู่ว…”

ไคค่อยๆจูบซับน้ำตาที่กำลังไหลพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยอีกครั้ง

“เมื่อกี๊เราเพิ่งยกโทษให้กันอยู่เลยนะ กลับมาโทษตัวเองอีกแล้วเหรอ หืม…?”

“ผม…”

“นายรู้สึกเหมือนฉันมั้ยแทยง”

ไคค่อยๆจับมือของแทยงขึ้นมา แล้วทาบลงที่อกของตัวเอง

“ได้ยินนี่มั้ย ฉัน…รู้สึกโหวงมาตลอด และจนกระทั่งเจอนาย มันกลับมาเต้นอีกครั้ง”

“…”

“พอนายจากไป มันกลับโหวงอีกครั้ง แล้วพอฉันมาเจอนายอีกครั้ง ตอนนี้ ฉัน…กลับมาใจเต้นอีกครั้ง”

“…”

“มัน…ไม่ใช่แค่ความรู้สึกดีๆแบบมิตรภาพ แต่ฉันรักนายจริงๆเลยล่ะ อี แทยง” ไคสั่งยิ้มบางๆให้

“…”

“แล้วนายล่ะ…รู้สึกยังไง?”

ไคกลับมาจ้องที่ดวงตาของแทยงอีกครั้ง แทยงรู้สึกเหมือนโดนสะกดให้บอกคำตอบ เสียงใจของเขาเองก็ไม่ต่างจากชายคนตรงหน้า

ใจมันเต้นโครมคราม…เช่นเดียวกันกับเขา

ริมฝีปากชมพูอ่อนอิ่มเม้นเข้าหากันก่อนที่จะค่อยๆคลายออก คลี่คำภายในใจที่กักมานาน…

“ผมเองก็เหมือนกัน…”

“ผมรู้สึกว่างเปล่ามาตลอด แต่พอเจอคุณ…ผมก็…รู้สึกใจเต้น…”

“…”

“ผมไม่แน่ใจว่ามันใช่ความรักมั้ย…ผม…”

“อยากทำให้แน่ใจมั้ย…?”

“…!?”

ไคยกร่างของแทยงให้มานั่งที่ตักของตน ไทยงประคองคอของไคไว้ ส่วนไคเองก็ประคองเอวของแทยงไว้เช่นกัน และใบหน้าใกล้กันเกือบแนบชิด…ตอนนี้ใบหน้าของแทยงแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย…

ไคค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าหาแทยง เหมือนแทยงถูกดวงตาของอีกฝ่ายสะกดให้เขาหา ทั้งโหยหา ริมฝปากนุ่มของอีกฝ่ายที่เคยลิ้มลอง…อยากสัมผัส…

แทยงค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้าหาไค ริมฝีปากแตะกันแล้ว ทั้งคู่หลับตาแล้วเริ่มด้วยจูบประกบปากเบาๆ ก่อนที่จะเปลี่ยน…เป็นจูบที่อ่อนหวาน แต่แฝงไปด้วยความโหยหามานาน…

เมื่อชิมรสจูบกันอยู่นาน ทั้งคู่ก็เริ่มค่อยๆผละออกจากกันช้าๆ…ใบหน้าของแทยงนั้นแดงจัด…

เขา…ไม่สิ เราทั้งคู่ต่างก็ใจตรงกัน…

“อี แทยง”

“…?”

“คบกับฉันนะ”

แทยงน้ำตาไหลอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่จากความเสียใจ แต่มันคือความดีใจ ตื้นตันอย่างบอกไม่ถูก ไคถอนหายใจพร้อมกับยิ้มและปาดน้ำตาให้อีกฝ่ายอย่างเบามือ

นี่เขาหลงรักคนขี้แยเข้าให้แล้วรึเนี่ย?

“คำตอบล่ะ?”

“ฮึก…อื้อ…ผมตกลง…”

ทั้งคู่ค่อยๆประกอบจูบกันอีกครั้ง จูบอันอ่อนโยนที่ร่างสูงมอบให้ ทำให้อีกฝ่ายนั้นเคลิ้มไปกับมัน เอนที่จะค่อยๆผละออกอย่างช้าๆ

“แทยง ฉันขออะไรอย่างนึงได้มั้ย?”

“ค…ครับ?”

“ฉันอยากให้นายเรียกชื่อจริงๆฉันมากกว่าชื่อเล่น ทำได้มั้ย?”

“เอ๋?”

“นะ…” ไคส่งยิ้มให้แทยง

ช่างเป็นยิ้มที่อ่อนโยน…อยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น…

“ครับ จงอิน”

ทั้งคู่สวมกอดกันอย่างแนบแน่นราวกับโหยหาสิ่งนี้…จากที่ทั้งคู่ขาดสิ่งนี้มานาน พอเติมเต็มกันและ สิ่งที่เรียกว่าความหนาวเหน็บ ความเหงาก็จางหายไปแทนที่ด้วยความอบอุ่นและอ่อนโยน

กลายเป็น ‘ความรัก’

.

.

.

End.